เรามาดูกันที่เวิร์คชีท FRONT END บนไฟล์ตัวอย่างเดิมกัน แต่คราวนี้ผมจะลองเปลี่ยนแปลงค่าตั้งต้นบางตัวใหม่ตามกรณีศึกษาที่สมมุติขึ้น สมมุติว่าผมอยากลองดูว่า ถ้าผมมีเงินทุนอยู่แค่ 70,000 บาท แต่ว่าโลภ อยากเทรดสัก 6 สัญญาณ กะว่าจะได้รวยเร็วขึ้นอีกหน่อย โดยเทรดตามสัญญาณซื้อขายเดิมนี่แหละ
ที่นี้เราลองมาดูผลตามรูปด้านบน จะเห็นว่า Final Equity ลดลงเหลือ 64,982.56 บาท ขาดทุนไป 5,017.44 บาท คิดเป็นประมาณ 7 เปอร์เซนต์ (อ้าว...นึกว่าจะรวย) เหลือบลงมาดูจำนวนการเทรด รวมแล้วเทรดไปทั้งหมด 4 ครั้ง ขาดทุนไป 3 ครั้ง แล้วทำไมมันเทรดแค่ 4 ครั้ง เดี๋ยวผมจะเฉลยด้านล่าง แต่ตอนนี้อยากขอให้ดูด้านซ้ายของรูปด้านบน คุณจะเห็นบางส่วนของชาร์ทที่ยังแสดงสัญญาณซื้อขายจนหมดข้อมูล ที่เป็นแบบนี้เพราะมันนำข้อมูลดิบจากตาราง IMPORTED DATA มาพล็อต จึงจะไม่สัมพันธ์กับผลที่เกิดขึ้นตามกรณีนี้ เพราะตามจริงมันเทรดไปได้เพียง 4 ครั้ง
เอาล่ะครับที่นี่มาดูในรูปด้านล่าง จะเห็นส่วนหนึ่งของตาราง TRADES บนเวิร์คชีท BACK END ซึ่งแสดงข้อมูลจากกรณีเดียวกัน คุณจะเห็นข้อความ STOPPED OUT สีส้มที่อยู่ด้านขวาของการเทรดครั้งสุดท้าย ข้อความนี้จะถูกแสดงออกมาโดยอัตโนมัติ ถ้าเงินทุนของเราลดลงต่ำกว่าจำนวนเงินที่จะใช้เป็นหลักประกันเริ่มต้นในการเทรดครั้งต่อไป นอกจากนั้น สัญญาณซื้อขายอัันถัดๆไปก็จะไม่ถูกนำมาประมวลผลต่อด้วย
ขอบคุณมากๆครับ ได้ประโยชน์มากเลย
ตอบลบ