รูปด้านบน ผมตัดมาจากเวิร์คชีท FRONT END ของไฟล์ตัวอย่าง จะเห็นว่ามันแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนบนสุดจะเหมือนเป็นส่วนหัวของรายงาน จะมีช่องใส่ข้อมูลประเภทช่วยจำ อย่างชื่อของอนุพันธ์หรือชื่อของข้อมูลที่เรานำมาใช้ หรือ Derivative Name และ แหล่งที่มาของสัญญาณซื้อขาย หรือ Trades Signal By ซึ่งข้อมูลพวกนี้คุณสามารถใส่ได้เองตามต้องการ แต่สำหรับ Strategy นั้นจะแสดงรูปแบบของการเทรดที่เราจำลองขึ้นโดยใช้สัญญาณซื้อขายที่นำเข้ามา ซึ่งอันนี้จะสัมพันธ์กับค่าที่อยู่ในช่อง Trade Long only ด้านล่าง
ถัดลงมาจะเป็นส่วนที่ใช้ในการตั้งค่าต่างๆ เพื่อนำใช้ในการคำนวณบนเวิร์คชีท BACK END จะอยู่ภายใต้ชื่อ SET UP ประกอบไปด้วยช่องป้อนข้อมูลดังนี้
- Initial Equity ใช้สำหรับกำหนดจำนวนเงินทุนเริ่มต้นที่จะใช้เทรด
- Initial Margin per contact ค่าหลักประกันเริ่มต้นต่อหนึ่งสัญญา
- Maintenance Margin ค่าหลักประกันรักษาสภาพ (ยังไม่ได้ถูกใช้ในเวอร์ชั่นนี้)
- Commission per contact ค่านายหน้าในการเทรดต่อหนึ่งสัญญา
- Big Point Value หรือตัวคูณดัชนี ซึ่งใช้คำนวณกำไรขาดทุนเป็นจำนวนเงิน
- Position Size จำนวนสัญญาทั้งหมดที่ใช้ในการเทรดแต่ละครั้ง
- Trade Long only ช่องนี้ให้คีย์ YES หรือ NO โดย YES จะหมายถึงให้นำสัญญาณซื้อขายมาจำลองการเทรดในแบบ Long ด้านเดียว แต่ถ้าเป็น NO ระบบจะจำลองการเทรดในแบบสองทาง คือ สมมุติว่าปิดสัญญาทั้งหมดในการเทรดด้านเดิม แล้วเปิดสัญญาใหม่ในฝั่งตรงข้ามที่ราคาเดียวกัน เมื่อพบสัญญาณซื้อหรือขายใหม่ที่ตรงข้ามกัน ซึ่งผมขอเรียกว่า Directional Stop And Reverse
ถัดลงมาอีกก็จะเป็น PERFORMANCE ซึ่งเป็นสรุปผลของการเทรดตามสัญญาณที่ใช้ ว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหน ข้อมูลที่ผมเลือกมาใช้ในเบื้องต้นมีตามนี้ครับ
- Final Equity เป็นมูลค่ารวมล่าสุดของ portfolio ที่ใช้เทรด
- Net Profit กำไรสุทธิจากการเทรดทั้งหมด
- Trade Profit มูลค่ารวมของเทรดที่ได้กำไร
- Trade Loss มูลค่ารวมของเทรดที่ขาดทุน
- Number of Winner จำนวนครั้งที่เทรดชนะ
- Number of Loser จำนวนครั้งที่เทรดแพ้
- Profit Factor เป็นสัดส่วนที่ใช้บอกความสามารถในการทำกำไรของระบบ
- Average Win ค่าเฉลี่ยของกำไรจากการเทรดทั้งหมด
- Average Loss ค่าเฉลี่ยของขาดทุนจากการเทรดทั้งหมด
- Expectancy ค่ากำไรคาดหวังจากการเทรดตามระบบ
- Max. % Drawdown เปอร์เซนต์ของการขาดทุนสะสมสูงสุดในช่วงเวลาที่ขาดทุน
จะเห็นว่าบ้างค่าจะมีการแสดงผลทั้งที่เป็นจำนวนเงิน และเป็นเปอร์เซนต์ ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากการประมวลผลข้อมูลที่ถูกคำนวณบนตาราง TRADES มาอีกทีหนึ่ง
กระเถิบมาทางซ้ายอีกนิด คุณก็จะพบกับชาร์ทแสดงราคาปิดของ SET50 Index Future พร้อมจุดซื้อและจุดขายที่พล็อตตามข้อมูลจากตาราง IMPORTED DATA บนเวิร์คชีท BACK END ถ้าคุณคลิกหนึ่งครั้งบนพื้นที่ชาร์ทแล้วเลื่อนตัวชี้ไปบนจุดซื้อหรือจุดขายสักอัน มันจะแสดงวันที่และราคาของจุดซื้อขายนั้นออกมาตามรูปด้านล่าง ชาร์ทนี้ผมกำหนดให้มันครอบคลุมพื้นที่ข้อมูลประมาณ 2,000 แถว ถ้ามีข้อมูลที่นำเข้ามามากกว่านี้ ก็สามารถแก้ไขใน properties ของชาร์ทได้ในภายหลัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น